วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

ค่ายบกหวาน

เป็นสมรภูมิที่กองทัพของเจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์ สิงหเสนี) กับกองทัพเจ้าราชวงศ์ เมืองเวียงจันทน์ ต่อสู้กันจนถึงขั้นตะลุมบอน นายทัพนายกองล้มตายกันเป็นจำนวนมาก  ทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายลาว ส่วนตัวแม่ทัพฝ่ายไทยถูกแทงบาดเจ็บสาหัส ถึงต้องใส่เปลห้ามและเสียน้องชายคือหลวงพิพิธ ถูกเจ้าราชวงศ์แห่งเวียงจันทน์ฟันด้วยมีดดาบ ตายในสนามรบขณะที่จะเข้ามาช่วยเจ้าพระยาราชสุภาวดี
ค่ายบกหวานตั้งอยู่ที่บ้านบกหวาน ตำบลค่ายบกหวาน ใกล้ทางแยกบ้านหนองสองห้อง ห่างจากเทศบาลเมืองหนองคายไปตามถนนมิตรภาพ หนองคาย-อุดรธานี ประมาณ ๑๕ กิโลเมตร
หลังจากค่ายพานพร้าวแตก พระยาราชสุภาวดีผู้เป็นแม่ทัพได้พาทหารไทยที่เหลือ หนีมาตั้งหลักอยู่ที่ ค่ายบกหวาน (ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย ปัจจุบัน)เจ้าราชวงศ์ (เจ้าเหง้า) ตามตีค่ายบกหวานของไทยแตก แม่ทัพไทยบาดเจ็บจึงถอยทัพไปเมืองยโสธร และต่อมาก็ได้รวบรวมกำลังทหารยกพลมาตั้งมั่นที่ค่ายบกหวานอีก (ตำบลค่ายบกหวาน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย) ห่างจากค่ายพานพร้าว ๕๐ กิโลเมตร และแม่ทัพได้ขอกำลังลังลูกหลานพระวอพระตามาสมทบ เช่นพระสุนทรราชวงศา(ฝ้าย) ท้าวสุวอธรรมา(บุญมา) อุปฮาด ได้สองนักรบมาเคียงข้างทำให้พระยาราชสุภาวดีผู้เป็นแม่ทัพมั่นใจในศึกครั้งนี้มากยิ่งขึ้น
ในวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๑๑ ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๓๗๑ ก็ปะทะกับ
เจ้าราชวงศ์ (เหง้า) โอรสเจ้าอนุวงศ์เจ้าราชวงศ์องค์นี้เป็นนักรบที่ชาญฉลาดและเก่งกล้าของฝั่งประเทศลาว การรบครั้งนั้นดุเดือดมาก กองทัพเจ้าราชวงศ์ยกพลมาล้อมค่ายบกหวาน เจ้าพระยาราชสุภาวดี (สิงห์) มีกำลังน้อยกว่ามากแต่ก็มีนักรบที่เชี่ยวชาญในการศึก ในครั้งนั้นกองทัพเจ้าราชวงศ์เข้าล้อมตีกองทัพไทยจนไม่เป็นขบวน เจ้าพระยาราชสุภาวดีเสียทีถูกเจ้าราชวงศ์แทงจนได้รับบาดเจ็บ แต่หลวงพิพธน้องชายเข้ามาช่วย จึงถูกเจ้าราชวงศ์ฟันด้วยดาบถึงแก่ความตาย ในขณะนั้นทหารไทยยังมีขวัญและกำลังใจดี ส่วนเจ้าราชวงศ์ถูกปืนของฝ่ายไทยจนไดรับบาดเจ็บสาหัสถอยทัพกลับเมืองเวียงจันทน์ เจ้าพระยาราชสุภาวดีเมื่อทำบาดแผลเสร็จแล้ว สั่งทหารตามตีกองทัพลาวไปจนถึงค่ายพันพร้าวและตั้งค่ายอยู่ที่ค่ายพันพร้าวอีก  เจ้าอนุวงศ์ทราบดังนั้นจึงพาครอบครัวหลบหนีจากนครเวียงจันทน์เพื่อจะไปพึ่งญวนอีก พระองค์ตัดสินใจไปพึ่งญวนในตอน ย่ำรุ่ง  ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พระยาราชสุภาวดี แม่ทัพและ ท้าวสุวอธรรมา(บุญมา) อุปฮาดเมืองยโสธร ยกพลจากค่ายพันพร้าวข้ามแม่น้ำโขงเข้าบุกเวียงจันทน์ เมื่อวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ตรงกับวันจันทน์ที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๓๗๑ ทำลายกำแพงและป้อมเมืองต่างๆ และหอคำ (พระราชวัง) หลังจากสิ้นสุดศึกครั้งนี้แล้ว พระยาราชสุภาวดีผู้เป็นแม่ทัพได้เป็นเจ้าพระยาบดินทรเดชาสมุหนายก ท้าวสุวอธรรมา(บุญมา)ได้เป็นเจ้าเมืองหนองคาย 
       ประวัติศาสตร์ลาวบันทึกตอนนี้ว่า ในเวลาที่กำลังต่อสู้กันดุเดือดอยู่นั้น เจ้าราชวงศ์ได้แลเห็นแม่ทัพใหญ่สยามขี่ม้าอยู่กลางพลทหาร เจ้าราชวงศ์จึงชักม้าตรงไปหาทันที ต่อสู้กันตัวต่อตัวระหว่างแม่ทัพต่อแม่ทัพ เจ้าพระยาราชสุภาวดีเห็นเจ้าราชวงศ์เข้ามาใกล้จึงชักม้าเตรียมถอยหนี แต่หนีไม่ทัน เจ้าราชวงศ์ถือหอกแทงถูกอก เลาะลงไปถึงท้องน้อยจนตกม้านอนดิ้นกลางดิน รอยบาดแผลยาว ๘ นิ้วเลือดไหลซะ(เลือดไหลทะลัก) เจ้าราชวงศ์โดดลงไปซ้ำหลวงพิพิธน้องชายถอดดาบออกมาช่วยป้องกันอ้ายไว้ เจ้าราชวงศ์ยกดาบฟันหลวงพิพิธขาดเคิง (ขาดออกเป็นท่อน) พอดีพวกทหารสยามยิงปืนสุมใส่เจ้าราชวงศ์ ลูกหนึ่งถูกกระดูกสันหลังอีกลูกหนึ่งถูกตะโพก ทำให้เจ้าราชวงศ์ล้มลง แต่พอได้สติก็ลุกขึ้นขี่ม้านำพากองทัพลาวตีผ่าวงล้อม ของทหารสยามถอยหนีกลับมาเวียงจันทน์
กองทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดี(สิงห์) ตั้งมั่นอยู่ที่ค่ายพันพร้าว กวาดต้อนผู้คนชาวเวียงจันทน์ อพยพลงมากรุงเทพฯ ในเดือน ๑๒ เพื่อตัดกำลังไพร่พลมิให้ตั้งบ้านเมืองได้ ครั้งถึงเดือนอ้ายขึ้น ๑๕ ค่ำ กองทัพก็จับเจ้าอนุวงศ์และครอบครัวได้ นำมาส่งเจ้าพระยาราชสุภาวดี ที่ค่ายพันพร้าว และรายงานว่าเจ้าน้อยแห่งเมืองพวน หรือพระยาน้อยเจ้าเมืองพวนจับเจ้าอนุวงศ์ได้ที่น้ำไฮ เชิงเขาไก่ เขตเมืองเชียงขวาง (เมืองพวน) เจ้าพระยาราชสุภาวดี จึงให้พระอนุรักษโยธา พระโยธาสงคราม หลวงเทเพนทร์ พระนครบริรักษ์ เจ้าเมืองขอนแก่น และราชวงศ์เมืองชนบท กับไพร่ ๓๐๐ คนคุมตัวเจ้าอนุวงศ์และครอบครัวมาส่งที่เมืองสระบุรี ลงเรือ (ที่อำเภอท่าเรือ) มาถึงกรุงเทพมหานคร เมื่อเดือน ยี่ ขึ้น ๑๑ ค่ำ ปี ชวด พ.ศ.๒๓๗๑
…………………………….

1 ความคิดเห็น:

  1. The Casino at Mohegan Sun - JamBase
    The Casino at 강원도 출장샵 Mohegan Sun 경산 출장샵 in Uncasville CT is your 청주 출장안마 one stop shop for everything 전주 출장샵 you need for New Jersey's hottest casino and entertainment. Get great rates 안성 출장마사지

    ตอบลบ